สวัสดีครับ วันนี้ได้รับเมล์ดีๆ ที่ผมคิดว่าเป็นแนวคิดดีๆ น่าจะสามารถนำมาปรับใช้ในชิวิตประจำวันของเราได้ เลยนำมาให้ได้อ่านกันครับ :-
ที่มา: F/W Mail
" เพื่อก้าวให้ถึงความสุข ความสำเร็จ และความก้าวหน้าทางการงานและชีวิต จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการปรับเข็มทิศ ด้วยการสร้างพลังบวกให้เกิดขึ้นในใจ พลังบวกดังกล่าวจะกลายเป็นแรงผลักดันที่สร้างสรรค์ในตัวคุณ ผ่านท่าทีที่ดูดี มีเสน่ห์ และอากัปกิริยาที่มีชีวิตชีวาเสมอ
ฉะนั้น จง...
1. สลัดเรื่องลบออกจากใจ เพราะเรื่องลบ เรื่องเศร้า มีกำลังที่จะบั่นทอนพลังอันยิ่งใหญ่ในตัวคนเราได้มากที่สุด ทำให้คนหดหู่ ดูห่อเหี่ยว ไม่มีกำลังวังชาที่จะขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้าด้วยความสุขและความมั่นใจ ดังนั้น ถ้ามีความคิดติดลบหรือไม่ดีแวบเข้ามาในความคิด ขอให้หยุดมัน
2. ตั้งเป้าหมายแรกให้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เงิน ความสัมพันธ์หรือเรื่องใดๆ ก็ตาม การตั้งเป้าหมายง่ายๆ พอดีแรง พอจะเป็นไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก จะทำให้เรามีกำลังใจ และคิดถึงสิ่งที่ค่อยๆ ใหญ่ตามกำลังความสามารถของเรา ตามประสบการณ์หรือชั่วโมงบินของเรา ก็จะช่วยให้ก้าวถึงความสุขและความสำเร็จ สมหวังโดยไม่ท้อไปก่อน
3. ขอให้มีความเชื่อมั่นว่าคุณเก่ง คุณทำได้ เพราะการที่เริ่มคิดว่าคุณเป็นคนไม่เก่ง อะไรก็ทำไม่ได้ถ้าไม่มีคนเดินนำหน้า แค่คิดว่าทำไม่ได้ตั้งแต่แรก ก็ทำให้คุณไม่มีการก้าวเดินเกิดขึ้น ฉะนั้น คุณต้องคิดว่าคุณทำได้เสมอ และคุณมีความสุขอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้เรื่องที่กำลังจะทำนั้นประสบความสำเร็จ
4. หนีให้ไกลคนที่มองโลกในด้านลบ โดยความจริงของสังคมคงจะหนียากสักหน่อย เพราะคนประเภทนี้จะแฝงกายอยู่ทั่วทุกสังคม แต่การเลือกที่จะคบหรือจะคุยคงต้องดูกาลเทศะหรือทิศทางลมให้ดี เพราะคุณอาจจะเข้าข่ายสมาคมคนมองโลกด้านลบ จนทำให้มองอะไรหรือใครต่อใครในแง่ร้ายไปหมด สิ่งที่เกิดขึ้นคือความคิดที่ไม่สร้างสรรค์หรือความคิดที่ไม่เป็นบวก ต่อทั้งการทำงานและการดำเนินชีวิต เป็นด้านอกุศล อัปมงคล เป็นแรงฉุดมากกว่าแรงผลัก ฉะนั้น จงขจัดนิสัยจับผิดคนอื่น เห็นปัญหาก่อนโอกาส หรือนิสัยด้านลบอื่นๆ ไปเสีย
5. มองปัญหาเป็นโอกาส เพราะการที่คนเราจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่ต้องการได้ สนิทสนมรักใคร่กับคนที่ต้องการได้ มีชื่อเสียง มีการยอมรับนับถือ หรือมีความสำเร็จในชีวิตได้ ต้องผ่านการแก้ปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและปัญหาโดยรวมให้ได้ก่อน ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจะเป็นประสบการณ์ที่ดี จะทำให้เรามีพลังทำอะไรต่อไปได้ ถ้าเรารู้จักเรียนรู้จากปัญหา ยิ้มรับกับปัญหาที่เกิด แล้วใช้มันเป็นครู การก้าวผ่านปัญหาได้อย่างปลอดโปร่งครั้งแล้วครั้งเล่า จะยิ่งเป็นพลังให้เราก้าวไปข้างหน้าต่อไป
6. รอบคอบกับสิ่งที่ทำ แต่ละคนมีการจัดรูปแบบการดำเนินชีวิตและการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น การจดบันทึกการทำงานอย่างมีขั้นตอนทุกครั้งที่เริ่มทำงานจนปิดโครงการ นอกจากจะทำให้งานสามารถดำเนินการต่อไปด้วยทีมที่ทำงานร่วมกันแล้ว ยังแสดงความเป็นมืออาชีพของคุณอีกด้วย เช่นเดียวกับการเตรียมการพูด เตรียมหัวข้อประชุม เตรียมเสื้อผ้าล่วงหน้าในแต่ละวัน เรียนรู้ศิลปะการแต่งหน้าและการทำผมง่ายๆ เพื่อจะคอยจัดการกับเสื้อผ้า หน้าผม ได้ด้วยตัวเอง คิดเสมอก่อนจะพูด มีรอยยิ้มเป็นของชำร่วย แจกให้กับทุกคนได้ โอภาปราศรัย มีความน่ารักในตัวเอง สิ่งเหล่านี้เป็นต้นทุนให้คุณได้สานต่อสิ่งดีๆ อื่นๆ ได้ตลอดทั้งวันและตลอดชีวิต
7. เก็บความรู้สึกที่ดีไว้เสมอ การทำงานเมื่อเสร็จงานก็จะต้องมีผลงานที่ได้ทำลงไป ส่วนจะเป็นโบว์แดงชิ้นใหญ่หรือชิ้นเล็กก็สุดแต่สิ่งที่ได้รับมอบหมาย ฉะนั้น ในวันที่คุณได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ขอให้เก็บความรู้สึกที่ดีที่ได้รับไว้ในใจเสมอ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณมีกำลังใจทุกครั้งที่ทำงานชิ้นใหม่ เช่นเดียวกับการคบเพื่อน มีคนรัก เดินทางท่องเที่ยว ฯลฯ ทุกวันเวลาในชีวิต มีนาทีที่ดีให้จดจำไว้เป็นกำลังใจในวันถัดๆ ไปเสมอ
ทั้ง 7 วิธีเป็นเรื่องของการตั้งเข็มทิศที่ดีให้เกิดขึ้นในจิตใจ เพื่อให้งาน ชีวิต สัมพันธภาพ ฯลฯ ก้าวหน้าไปด้วยดี หากวันนี้คุณยังไม่มีเข็มทิศชีวิต ยังมีความคิดที่ติดลบต่อหลายๆ เรื่อง หรือต่อคนหลายๆ คน จงพาตัวเองออกมาให้พ้นจากมันเสีย และตั้งทิศทางใหม่ เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ และนำตัวเองไปสู่ความสุขในวันข้างหน้าให้ได้ ด้วยทั้ง 7 วิธีที่ไม่ยากเกินทำ!!! "
ที่มา: F/W Mail