วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เอ๊กซ์พีทิป เทคนิค: พิมพ์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ลงเท๊กซ์ไฟล์ด้วยคำสั่ง dir(เดอ)

อยากลิสต์รายชื่อไฟล์ลงไฟล์เอกสาร ลงกระดาษหน้าปกซีดี หรือลงเว็บ ลงบล๊อก จะทำไงดี?

จากที่ผมเคยแนะนำทิป ทริก สำหรับการ พิมพ์ลิสต์รายการไฟล์และโฟลเดอร์เพียงคลิกเดียวด้วย Batch File(.bat) !!! ออกทางเครื่องพิมพ์หรือเครื่องพริ้นเตอร์ มาแล้วนั้น วันนี้ผมจะแนะนำเทคนิค การลิสต์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ลงในเท๊กซ์ไฟล์ สำหรับนำไปใช้ในไฟล์ งานเอกสาร งานหน้าปกซีดี หรือแม้กระทั่ง คัดลอกลงเวป ลงบล็อค มาฝากกันครับ ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธีการด้วยกัน

วิธีแรก คือ ใช้คำสั่ง DIR(ดี ไอ อาร์ หรือ เดอ) บน Command line (cmd) หรือ "เจ้าดอสหน้าดำ" นั่นแหล่ะครับ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • 1. ให้ไปที่ Start > Run > แล้วพิมพ์ว่า cmd จากนั้นก็กดปุ่ม Enter หรือ OK ก็ได้

  • 2. รอสักครู่ จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอ เจ้าดอสหน้าดำ ให้พิมพ์คำสั่งตามซินแท๊กซ์(syntax) หรือรูปแบบต่อไปนี้ลงไป


dir source > destination

โดย

  • dir คือคำสั่งที่ใช้ลิสต์รายการไฟล์ และโฟลเดอร์ที่อยู่ใพาธปัจจุบันที่เราอยู่

  • source คือ ไดร์ฟและไดเร็คทอรี่ต้นทาง ที่เราต้องการจะลิสต์ส่งออกไปไว้ในเท๊กซ์ไฟล์ เช่น c:\windows เป็นต้น

  • > เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า ให้ส่งรายการจาก source ไปลงในเท๊กซ์ไฟล์ หรือส่งออกทางเครื่องพิมพ์ก็ได้

  • destination คือ ไดร์ฟและไดเร็คทอรี่ปลายทาง ที่เราต้องการจะลิสต์ส่งออกไปเก็บไว้ เช่น d:\test.txt (ซึ่งในที่นี้เราไม่จำเป็นต้องสร้างไฟล์ใหม่ แค่ระบุว่าจะเอาไปลงไว้ในไฟล์ชื่ออะไรไร อยู่ที่ ไดร์ฟ หรือโฟลเดอร์ไหน ก็พอ)


ยกตัวอย่างเช่น ผมต้องการลิสต์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดใน c:\windows ให้เอาไปเก็บลงในเท๊กไฟล์ที่อยู่ในไดร์ฟ d:\temp และเก็บไว้ในไฟล์ชื่อ winfiles.txt จะสามารถเขียนคำสั่งได้ดังนี้
dir c:\windows > d:\temp\winfiles.txt

เป็นต้น

  • 3. กดปุ่ม Enter ที่คีย์บอร์ด ซึ่งถ้าไม่มีะไรผิดพลาด คุณก็จะได้ไฟล์ winfiles.txt ซึ่งภายในนั้นจะลิสต์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ของ windows ออกมาให้คุณ แล้วหล่ะครับ


วิธีที่สอง คือ ใช้โปรแกรมสำหรับพิมพ์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์

ซึ่งในที่นี้ ผมขอแนะนำโปรแกรม "JR Directory Printer"

ซึ่งเป็นฟรียูทิลิตี้ ใช้สำหรับพิมพ์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่เราต้องการลงในไฟล์ได้ ใช้ง่าย เป็นโปรแกรมตัวเล็ก กระจิ๋วหลิว ขนาดแค่ 194 กิโลไบต์ ทั้งนี้เจ้า JR Directory Printer นี้ ก็มีออปชั่นให้เลือกใช้งานได้ ตามใจชอบครับ เช่น

  • Recurse Sub-directories - แสดงรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่อยู่ภายใต้โฟลเดอร์ที่เราเลือก

  • Lowercase Filename - แสดงรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์เป็นตัวอักษรตัวพิมพ์เล็ก

  • Dos style filename - แสดงรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์สูงสุด 8 ตัวอักษร


เป็นต้น โดยเมื่อคุณสั่งให้ Start โปรแกรมเริ่มทำงาน มันจะสร้างไฟล์ DirPrint.txt ขึ้นมาเพื่อเก็บรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่คุณต้องการ ซึ่งจะเก็บไว้ที่ Path เดียวกันกับโปรแกรม JR Directory Printer อยู่นั่นแหล่ะครับ

ลองดาวน์โหลดใช้งานงานดูนะครับ :D

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

google tips: ปรับแต่งหน้าโฮมเพจและหน้าค้นหาของกูเกิ้ลด้วย CustomizeGoogle

google search engine ถือได้ว่าเครื่องมือค้นหาที่มีคนนิยมใช้เป็นอันดับต้นๆของโลก หรือเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ คุณสามารถทำการค้นหาสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ รูปภาพ บล็อก แต่เราจะปรับแต่งค่า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของค้นหาที่เราต้องการได้อย่างไร และถ้าต้องการปรับแต่งค่าการแสดงผลบางอย่าง เช่น ไม่ให้แสดงโฆษณา, แสดงคีย์เวิร์ด suggestion เป็นต้น หรือปรับแต่งค่าต่างๆ ของบริการฟรีเซอร์วิสจากทางกูเกิ้ล ได้อย่างไร? CustomizeGoogle เป็นเครื่องมือที่ช่วยคุณได้

CustomizeGoogle คืออะไร

CustomizeGoogle คือเอ๊กเทนชั่น แอดออนตัวหนึ่งของหมาไฟ(firefox, ผมเรียกเป็น fire dog ไปซะแล้ว) ซึ่งเครื่องมือตัวนี้ ช่วยให้การปรับแต่งหน้าโฮมเพจของกูเกิ้ล หน้าผลลัพธ์จากการค้นหา รวมไปถึงสามารถปรับแต่งค่าการใช้งานต่างๆ ของบริการฟรีเซอร์วิสจากทางกูเกิ้ล เช่น gmail, google group, google maps, google calendar, images search, google docs google video เป็นต้น

ซึ่งการใช้งานก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณทำการติดตั้ง extension ตัวลงลงบนหมาไฟเบราเซอร์ โดยดาว์โหลดได้ที่ CustomizeGoogle หรือสามารถติดตั้งเวอร์ชั่นภาษาไทยได้ที่ Install Now หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมของเวอร์ชั่นภาษาไทยได้ที่ Thai

หลังจากที่ติดตั้งแล้ว สามารถไปปรับแต่งค่า CustomizeGoogle ได้ที่เมนู Tools > CustomizeGoogle ออปชั่น ซึ่งจะเป็นดังรูป



จากรูปข้างต้น เป็นการปรับแต่งค่าการใช้งานของหน้า Web ของกูเกิ้ล เช่น

  • ไม่ให้แสดงโฆษณาในหน้าผลลัพธ์จากการค้นหา

  • แสดงคีย์เวิร์ดแนะนำ สำหรับการค้นหา เมื่อเราพิมพ์คำหรือข้อความใดๆลงไป

  • ไม่เก็บคุ๊กกี้หรือการ tracking การคลิก

  • แสดง favicon ของหน้าเว้บเพจ


เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถทำการปรับแต่งค่าของบริการฟรีอื่นๆได้ เช่น เมื่อคุณเลือกที่แท๊บ Gmail คุณก็สามารถปรับแต่งค่าการใช้งานหน้า Gmail ได้ เช่น

  • ไม่แสดงโฆษณาและหน้าที่ใกล้เคียงกัน

  • ล๊อกอินเข้าโหมดที่ใช้ https เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยของการใช้งาน

  • ซ่อนกล่องเชิญชวน หรือ invite เพื่อนๆ เพื่อให้มาใช้งานจีเมล์


เป็นต้น ตัวอย่างค่าการปรับแต่ง ดังรูป


ลองนำไปใช้และทดสอบ ตั้งค่าการใช้งานบริการฟรีต่างๆ ของทางกูเกิ้ลดูนะครับ และอย่าลืมนะครับว่า สามารถใช้ได้บน firefox browser เท่านั้น ใครอยากใช้ต้องลองไปดาวน์โหลดหมาไฟมาใช้ดูแล้วหล่ะครับ :D

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551

How to: ซ่อนไฟล์โฟลเดอร์ให้ปลอดภัยด้วยทริค เทคนิคง่ายๆ

คุณมีไฟล์โฟลเดอร์ที่เป็นความลับ และจำเป็นต้องซ่อนไว้ให้ปลอดภัยบ้างไหม?

จากที่เราเคยรู้วิธีการซ่อนโฟลเดอร์แบงง่ายมาแล้วนะครับ นั่นก็คือ การ Set Properties ของไฟล์โหลเดอร์นั้นให้เป็นแบบ Hidden แล้วไปทำการตั้งค่า Folder Options ใน Windows Explorer(หรือ My Computer นั่นเอง) ให้ไม่สามารถมองเห็นไฟล์โฟลเดอร์ที่ซ่อน โดยการเลือก option "Do not show hidden files and folders" นั้น สามารถสร้างความปลอดภัยให้กับไฟล์โฟลเดอร์ ที่เราต้องการซ่อนได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์มาพอสมควรแล้ว จะรู้เรื่องนี้ และสามารถค้นหาหรือเปิดไฟล์โฟลเดอร์ที่เราซ่อนไว้ได้

แต่วันนี้ผมมีทริก เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณซ่อนไฟล์โฟลเดอร์ที่สำคัญ และเป็นความลับไว้ให้ปลอดภัย ห่างไกลจากการเข้าถึงได้จากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ด้วยการแปลงไฟล์โฟลเดอร์นั้นๆ ให้เป็นชนิดของไฟล์โฟลเดอร์ของ Control Panel ทำได้อย่างไรนั้น ไปดูขั้นตอนต่อไปเลยครับ :-

1. อันดับแรก ให้ทำการสร้างไฟล์โฟลเดอร์ที่คุณต้องการเก็บรักษาให้ปลอดภัย จากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือจะเป็นไฟล์โฟลเดอร์ที่คุณสร้างไว้แล้วก่อนหน้านี้ก็ได้ ซึ่งในที่นี้ ขอยกตัวอย่างชื่อเป็น "Fonts" ซึ่งถูกสร้างไว้ที่ Drive D:


ซึ่งโฟลเดอร์นี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็นชนิด Control Panel ในลำดับต่อไป

2. อันดับต่อมา เปิด notepad จากนั้นให้พิมพ์ หรือคัดลอกข้อความต่อไปนี้
ren Fonts Fonts.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}

ลงไปใส่ในไฟล์ โดยที่คุณสามารถเปลี่ยน "Fonts" ให้เป็นตามชื่อไฟล์โฟลเดอร์ที่คุณต้องการจะซ่อน เช่น ถ้าโฟลเดอร์ของคุณชื่อ "Images" ก็ให้เปลี่ยนคำว่า "Fonts" เป็น "Images"

3. อันดับถัดไป แล้วให้ทำระบุชื่อไฟล์ โดยให้ใส่นามสกุล ".bat"  ในที่นี้ ขอยกตัวอย่างเป็นชื่อ "loc.bat" ดังรูป


แล้วทำการบันทึกไฟล์ loc.bat ไว้ที่ path เดียวกันกับโฟลเดอร์ที่คุณต้องการซ่อน ดังรูป


4. อันดับต่อมา ให้ทำการสร้างไฟล์ขึ้นมาอีกไฟล์ โดยการเปิด notepad จากนั้นให้พิมพ์ หรือคัดลอกข้อความต่อไปนี้
ren Fonts.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D} Fonts

จากนั้น แล้วให้ทำระบุชื่อไฟล์ โดยให้ใส่นามสกุล ".bat"  ในที่นี้ ขอยกตัวอย่างเป็นชื่อ "key.bat" และให้ทำการเปลี่ยนคำว่า "Fonts" ให้เป็นตามชื่อไฟล์โฟลเดอร์ที่คุณต้องการจะซ่อน ดังคล้ายขั้นตอนที่ 2. และให้ทำการบันทึกไฟล์ key.bat ไว้ที่ path เดียวกันกับโฟลเดอร์ที่คุณต้องการซ่อน ดังขั้นตอนที่ 3.

5. อันดับถัดมา อันดับสุดท้าย จากนั้นคุณก็จะได้ไฟล์ loc.bat และ key.bat ซึ่งถูกบันทึกไว้ที่ path เดียวกันกับโฟลเดอร์ที่คุณต้องการซ่อน จากนั้นให้ทำการดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ loc.bat เพื่อทำการซ่อนไฟล์โฟลเดอร์ที่ต้องการให้เป็นชนิดของ Control Panel รอสักครู่ คุณก็จะเห็นโฟลเดอร์เป้าหมาย กลายเป็นชนิด Control Panel เรียบร้อย ซึ่งจะไม่สามารถดูข้อมูลในนั้นได้เลย ดังรูป


ซึ่งถ้าคุณต้องการที่จะเปิดดูข้อมูลในโฟลเดอร์นั้นๆ ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ key.bat คุณก็จะสามารถเปิดโฟลเดอร์ดูข้อมูลข้างในได้แล้วครับ ทั้งนี้ คุณจะต้องเก็บรักษาไฟล์ key.bat ไว้ให้ดี อาจจะบันทึกลงใน CD, USB flash drive นำพกพา ติดตัวไปด้วยก็ได้ หรือจะเก็บไว้ในที่ๆ ปลอดภัยก็ได้ครับ

ลองนำไปทดลองใช้กันดูนะครับ :D

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551

4 วิธีแฮครีจิสทรี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวินโดวส์

วินโดวส์เป็นโอเอสที่เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง ใช้งานง่าย มีกราฟฟิคที่ติดต่อกับผู้ใช้งานสวยงาม ทั้งนี้วินโดวส์ยังมีส่วนที่เอาไว้ให้ผู้ใช้งาน สามารถปรับแต่ง แฮ็ค tweak ค่าการใช้งานต่างๆได้ ตามที่ต้องการ และช่วยให้วินโดวส์ทำงานได้เต็มประสทิธิภาพ นั่นคือ "Windows Registry(วินโดวส์รีจิสทรี)" นั่นเองครับ

ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยให้วินโดวส์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ วันนี้ผมจึงมาแนะนำ 4 วิธีแฮครีจิสทรี เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวินโดวส์ ให้ทำงานได้ราบรื่น smooth ขึ้น แต่ก่อนที่เราจะไปแฮ้ครีจิสตรีนั้น อย่าลืม backup สำหรับรีจิสทรีไว้ก่อนนะครับ โดยให้ไปที่เมนู Start > Run > regedit จากนั้นให้ทำการเลือกรีจีสทรีคีย์ที่ต้องการ export ไปสำรองไว้ เมื่อเลือกได้แล้วให้ไปที่เมนู File > Export จากนั้นให้เลือกตำแหน่งไฟล์ path ที่จะเก็บไว้ และใส่ชื่อไฟล์ที่ export ออกไปด้วย โดยเลือกให้เลือก option "selected branch" และเลือกนามสกุลไฟล์เป็น .reg  จากนั้น Save ได้เลยครับ และเมื่อต้องการ Restore ค่ารีจีสทรีก็สามารถทำได้ โดยให้ไปดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ .reg ที่เรา export ออกไปไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ ก็เป็นอันเสร็จครับ

เมื่อทำการ Backup รีจีสทรีคีย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไปดูวิธีการแฮครีจีสทรีวินโดวส์กันต่อเลยครับ :-

1. Load Applications Faster (เร่งสปีด เปิดโปรแกรมอย่างเร็ว)
ทำได้โดยการปรับแต่งค่า Windows Prefetcher ซึ่งเป็น Cache เก็บการโหลดโปรแกรมต่างๆ ดังนี้ โดยให้ไปที่ Start > Run > regedit จากนั้นไปที่คีย์
HKEY_LOCAL_MACHINE \ SYSTEM \ CurrentControlSet \ Control \ SessionManager \ Memory Management \ PrefetchParameters จากนั้นดับเบิ้ลคลิกเพื่อเปลี่ยนค่าให้เป็น 9 จากนั้นทำการรีบูทเครื่อง

2. Unload Unused DLLs (ยกเลิกการโหลดไฟล์ Dynamic Library Links)
หลังจากที่เราปิดโปรแกรมใดๆลงไป วินโดวส์ยังคงเก็บไฟล์ DLLs ไว้ในหน่วยความจำ ซึ่งทำให้เปลีอง resources โดยใช่เหตุ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งได้ ดังนี้ โดยให้ไปที่ Start > Run > regedit จากนั้นไปที่คีย์
HKEY_LOCAL_MACHINE \  SOFTWARE \ Microsoft \ Windows \ CurrentVersion \ Explorer \ AlwaysUnloadDLL โดยเซ็ตค่าให้เป็น 1 ถ้าไม่มีคีย์นี้อยู่ให้ทำการสร้างขึ้นมาใหม่ ให้เป็นชนิด DWORD

3. Disable User Tracking (หยุดการแกะรอยการใช้งาน)
ฟังก์ชันในการ Tracking ของวินโดวส์นั้น ทำให้เปลืองการใช้งานทรัพยากรของระบบมากอีกตัวหนึ่ง และฟังก์ชันนี้ก็ไม่จำเป็นสำหรับใช้ Tracking Home Users ทั่วๆไป และเพื่อลดการใช้งาน Resources ในส่วนนี้ เราสามารถแฮครีจีสทรีคีย์ได้ดังนี้ โดยให้ไปที่ Start > Run > regedit จากนั้นไปที่คีย์
HKEY_LOCAL_MACHINE \ Software \ Microsoft \ Windows \ CurrentVersion \ Policies \ Explorer \ NoInstrumentation และเซ็ตค่าให้เป็น 1

4. Disable Desktop Cleanup Wizard (ยกเลิกฟังก์ชันคลีนอัพหน้าจอ)
ทุก 60 วันวินโดวส์จะสั่งให้ฟังก์ชันนี้ รันทำงานเพื่อเคลียร์หน้าจอ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการให้ฟังก์ชันนี้ทำงาน สามารถ Disable ได้ดังนี้ โดยให้ไปที่ Start > Run > regedit จากนั้นไปที่คีย์
HKEY_LOCAL_MACHINE \ Software \ Microsoft \ Windows \ CurrentVersion \ Explorer \ Desktop \ CleanupWiz จากนั้นให้ปรับแต่งค่า NoRun ให้เป็น 1

ลองนำไปใช้ ปรับแต่งกันดูนะครับ :D

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แปดยูทิลิตี้ทูลสำหรับอัพโหลดดาวน์โหลดรูปภาพบน Flickr

ใครไม่ได้ใช้บริการของ Flickr บ้าง ยกมือขึ้น?
คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก Flickr นะครับ เพราะ Flickr(ฟริกเกอร์) เป็นสุดยอดเว็บยอดนิยมที่ให้บริการ ฝากรูป จัดเก็บ จัดการ แก้ไข และแชร์ แลกเปลี่ยนแบ่งปัน รูปภาพผ่านอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังเป็นคอมมูนิตี้ ศูนย์รวมข้อมูล ข่าวสารของตากล้อง มือถ่ายรูป ภาพเจ๋งๆ สำหรับแชร์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมไปถึง Flickr ยังเป็นเจ้าแรกที่ปฏิวัติ ปรับเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการที่ให้บริการจัดการ แลกเปลี่ยน แชร์รูปภาพผ่านอินเตอร์เน็ต

วันนี้ผมจึงมาแนะนำเครื่องมือเจ๋งๆ สำหรับอัพโหลด ดาวน์โหลดรูปภาพจาก Flickr มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ :-

1. Flickr Importr

Flickr Importr เป็นยูทิลิตี้ตัวหนึ่งบนวินโดวส์ ที่อนุญาตให้เราสามารถอัพโหลดไฟล์รูปภาพ ขั้นไปเก็บไว้บน Flickr รวมไปถึงสามารถเพิ่มเข้าไปยัง group ได้แบบอัตโนมติเลยหล่ะ

2. Flishr


Flishr ยูทิลิตี้ที่ช่วยให้คุณสามารถทำการดาวน์โหลด อัพโหลด รวมไปถึงค้นหารูปภาพจาก Flickr ได้อย่างง่ายดาย

3. FlickrFaves

FlickrFaves เป็นยูทิลิตี้ตัวจิ๋ว แต่แจ๋ว ที่ช่วยให้การดาวน์โหลดไฟล์รูปภาพจาก Flickr ของคุณ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux เนื่องจากพัฒนาด้วยภาษาจาวานั่นเองครับ

4. FlickrDown

FlickrDown เป็นยูทิลิตี้ ที่ช่วยในการค้นหาและดาวน์โหลดไฟล์รูปภาพ จาก Flickr ซึ่งสามารถทำการบันทึกไฟล์ได้ที่ละหลายๆรูปภาพ

5. FlickrDownloadr

FlickrDownloadr ด้วยเครื่องมือตัวนี้ คุณสามารถทำการค้นหา และตั้งค้าการดาวน์โหลดแบบอัตโนมัติ โดยตั้งค่าสำหรับค้นหาจาก image tag(s), Flickr username, Groups Pools, Flickr user sets รวมไปถึงวัน เหตุการณ์ในแต่ละวัน

6. Gnickr

Gnickr เครื่องมือที่ช่วยให้คุณ สามารถจัดการรูปภาพของคุณผ่านเว็บไซต์ได้ง่ายๆ ด้วยการสร้าง Flickr virtual filesystem

7. Grabbr

Grabbr เป็นแอพพลิเคชั่นจิ๋ว แต่แจ๋วอีกตัว ที่ช่วยให้การอัพโหลดไฟล์รูปภาพของคุณ ไปเก็บไว้ที่ Flickr ได้อย่าง smooth รวมไปถึงการเซ็ต Title, Description, Tag ของรูปภาพก่อนที่จะทำการอัพโหลดรูปภาพไปเก็บไว้ได้โดยตรง

8. Foldr Monitr

Foldr Monitr ยูทิลิตี้หนึ่งเดียวที่รันอยู่เบื้องหลัง และเช็คโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์รูปภาพ เพื่ออัพโหลดขึ้นไปเก็บไว้บน Flickr โดยอัตโนมัติ

เคยใช้ตัวไหนมาบ้างครับ หวังว่ายูทิลิตี้ที่แนะนำนี้ จะช่วยให้การใช้งาน Flickr ของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนะครับ :D

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

คุณเคยใช้วินโดวส์คีย์บอร์ดช้อตคัตเหล่านี้บ้างไหม???

เวลาใช้งานวินโดวส์ คุณใช้คีย์บอร์ดช้อตคัต หรือช้อตคัตคีย์ หรือจะเรียกว่า เส้นทางลัด ในการที่จะเรียกใช้งานคำสั่งใด คำสั่งหนึ่งบนวินโดวส์ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเข้าถึงหรือเรียกใช้งานคำสั่งนั้นๆ ได้รวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งโดยทั่วไปเราจะรู้กันและใช้งานกันบ่อยๆ อย่างเช่น Ctrl+C(คัดลอกข้อความ), Ctrl+V(วางข้อความที่คัดลอก), Ctrl+X(ตัดข้อความที่เลือก), CTrl+P(สั่งพิมพ์), Ctrl+F(ค้นหา) เป็นต้น


แต่วันนี้ผมนำคีย์บอร์ดช้อตคัต ที่คิดว่าน่าจะเป็นที่รู้จักกันน้อยมาก หรือบางทีอาจจะไม่รู้จัก และไม่เคยใช้เลยก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็น "คีย์บอร์ดช้อตคัตที่ไม่ธรรมดา" มีตัวไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ :-

Windows Explorer Keyboard Shortcuts(Uncommon)

  • ปุ่ม NumLock + เครื่องหมายดอกจัน(*) : ใช้สำหรับแสดงลิสต์รายการโฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ทั้งหมด ที่อยู่ภายใต้ฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ปัจจุบันที่เราเลือกอยู่ รวมไปถึงโฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ย่อยๆด้วย

  • ปุ่ม NumLock + เครื่องหมายบวก(+) : ใช้สำหรับแสดงลิสต์รายการโฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ ที่อยู่ภายใต้โฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ปัจจุบันที่เราเลือกอยู่ (อยู่ภายใต้ชั้นเดียว)

  • ปุ่ม NumLock + เครื่องหมายบวก(+) : ใช้สำหรับซ่อนหรือยุบลิสต์รายการโฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ ที่อยู่ภายใต้โฟลเดอร์หรือไดเรคทอรี่ปัจจุบันที่เราเลือกอยู่


Accessibility Keyboard Shortcuts

  • ปุ่ม Alt(ข้างซ้าย) + Shift(ข้างซ้าย) + PrintScreen : เปิด/ปิด ตัวเลือกสำหรับตั้งค่า High Resolution ของหน้าจอแสดงผล

  • ปุ่ม Alt(ข้างซ้าย) + Shift(ข้างซ้าย) + NumLock : เปิด/ปิด ตัวเลือกสำหรับการตั้งค่าควบคุม Mouse Pointer ด้วยปุ่มตัวเลข

  • ปุ่ม Ctrl + Windows Logo + F : เปิดหน้าต่างสำหรับค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย

  • ปุ่ม Windows Logo + F : เปิดหน้าต่างสำหรับค้นหาไฟล์ในเครื่อง

  • ปุ่ม Windows Logo + D : ย่อ/ซ่อนหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดค้าง ทิ้งไว้

  • ปุ่ม Windows Logo + E : เปิดหน้าต่าง Windows Explorer หรือ My Computer

  • ปุ่ม Ctrl + Shift + Tab : เลือกแท๊บในหน้าต่างหรือไดอะล๊อกช์แบบย้อนหลัง

  • ปุ่ม Ctrl + Tab : เลือกแท๊บในหน้าต่างหรือไดอะล๊อกช์แบบไปข้างหน้า

  • ปุ่ม Alt + Tab : เลือกโปรแกรมที่เปิดค้างไว้ในทาส์กบาร์ตามลำดับการเปิดก่อนหลัง

  • ปุ่ม Shift + F10 : เปิด Popup menu หรือ Context menu แทนการคลิกเม้าส์ขวา เมื่อเราเลือกที่ไอคอนใดๆ

  • ปุ่ม Ctrl + Esc : เปิด/เรียกใช้งานปุ่ม Start เมนู

  • ปุ่ม F10 : เปิดการทำงานให้สามารถเลื่อ/เลือกเมนูต่างๆได้ โดยใช้คีย์บอร์ด


เพื่อนๆ เคยใช้ตัวไหนกันบ้างแล้วครับ :)

มาสร้างกราฟสำหรับดู Adsense Report ของคุณด้วย GraphSense กันไหม

Google Adsense เป็นหนึ่งในโปรแกรมเผยแพร่โฆษณาบนเว็บที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ที่ช่วยหาเงิน สร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับคนที่เล่นอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเว็บมาสเตอร์ บล็อกเกอร์ หรือผู้ใช้งานทั่วไป แต่รายงานที่เราๆใช้ดุกันอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นแบบอย่างง่ายๆ ซึ่งไม่สามารถดูรายงานในลักษณะที่เป็นแบบชาร์ตหรือกราฟ ที่จะช่วยให้ข้อมูล รายละเอียดที่มากกว่าได้ แล้วอะไรหล่ะที่จะช่วยเราได้ ผมขอแนะนำ Graphsense นั่นเองครับ ที่จะช่วยเราได้



GraphSense คืออะไร

Graphsense เป็น Firefox add-on ที่สามารถช่วยให้สามารถสร้างกราฟรายงานสำหรับดูรายงานแอดเซ้นส์แบบกราฟหรือแบบชาร์ต โดยเพียงแค่ทำการดาวน์โหลดและติดตั้ง add-on ตัวนี้ลงไป แล้วเข้าไปเลือกเมนู "advanced report" ที่ปรากฏอยู่ในแอดเซ้นส์แอคเค้าท์ของคุณ โดยกราฟเซ้นส์นี้ รองรับได้ทั้ง
- Adsense for content
- Adsense for search
- Adsense for referrals

และรายงานแอดเซ้นส์แบบกราฟนี้ สามารถแสดงในลักษณะเป็นแบบ กราฟเส้นตรง, กราฟแบบวงกลม และกราฟแท่ง ซึ่งสามารถ
- ดู Screen shots ของ GraphSense เพิ่มเติมได้ ที่นี่
- ดาวน์โหลดเพื่อทำการติดตั้งได้ ที่นี่

สาวก Adsense พลาดไม่ได้แน่นอน ลองนำไปใช้กันดูนะครับ :D

Mobile Phone Tips: 4 ช่องทางเช็ค Gmail ผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณ

สวัสดีครับ ห่างหายไป 2 วัน เนื่องจากติดภาระกิจ วันนี้กลับมาแล้วครับ กลับมาพร้อมกับ 4 ช่องทางสำหรับเช็คจีเมล์ของคุณผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือนั้น มีกันแทบจะทุกบ้าน ทุกเมือง ทุกผู้ทุกคน ขาดโทรศัพท์มือถือ แทบจะเรียกได้ว่าขาดการติดต่อสื่อสารจากโลกภายนอกเลยก็ว่าได้ ยิ่งโทรศัพท์ในยุคปัจจุบันนั้น สามารถที่จะเล่นอินเตอร์เน็ต เช็คเมล์ ดาวน์โหลดเพลง โปรแกรม ธีมต่างๆได้อย่างง่ายๆมากขึ้น วันนี้ผมเลยถือโอกาสมาแนะนำ 4 ช่องทางเอาใจสาวกจีเมล์และชอบใช้โทรศัพท์มือถือเช็คเมล์ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

ช่องทางที่ 1. เข้าไปที่เว็บของ Gmail ได้โดยตรง โดยเข้าไปที่ gmail.com หรือ googlemail.com หรือ mail.google.com จากนั้นล๊อกอิน และเช็คจีเมล์ของคุณได้แล้วครับ ทั้งนี้โทรศัพท์บางรุ่นอาจจะไม่สนับสนุน คุณสามารถใช้ช่องทางต่อไปได้ เช่นกันครับ

ช่องทางที่ 2. ดาวน์โหลด Mobile Application ซึ่งช่องทางนี้ ทางกูเกิ้ลได้สร้างแอพพลิเคชั่นที่รองรับโทรศัพท์มือถือที่สนับสนุนจาวาแอพพลิเคชั่น โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ Gmail App

ช่องทางที่ 3. เข้าผ่าน Wap Site ซึ่งสามารถเข้าเช็คเมล์ด้วย Wap Phone โดยไปที่ m.gmail.com

และช่องทางสุดท้าย ช่องทางที่ 4. ใช้ Cellphone's Email ซึ่งสามารถตั้งค่าเซลล์โฟนของคุณ ให้สามารถเช้คจีเมล์ได้ด้วยการตั้งค่า POP3 หรือ IMAP

แล้วคุณหล่ะครับ ใช้ช่องทางไหนกันบ้าง ในการเข้าเช็คจีเมล์แอ๊คเค้าท์ของคุณบ้าง?

วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Windows XP Energy Tips: มาประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการกล่อมจอมอนิเตอร์ให้หลับกันดีกว่า

วันนี้คุณช่วยกันลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม อันเนื่องมาจากการใช้งานคอมพิวเตอร์กันแล้วหรือยังครับ?

ถ้ายังหล่ะก็ ผมจะมาแนะนำเทคนิค วิธิการง่ายๆที่จะช่วยให้คุณประหยัดไฟฟ้าจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย ทั้งนี้ทางไมโครซอร์ฟ ซึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้ออกแบบคุณสมบัติอย่างหนึ่งของเจ้าระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ให้สามารถกล่อมเจ้าจอมอนิเตอร์น้อยๆของคุณ ให้หลับอย่างอัตโนมัติและง่ายดาย ทั้งยังช่วยให้คุณเซฟพลังงาน เซฟกระเป๋าตังค์ และรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย และถ้าคุณต้องการปลุกให้ตื่น ก็สามารถทำได้ ด้วยการกระดิกเม้าส์หรือเคาะคีย์บอร์ดเบาๆ เจ้ามอนิเตอร์น้อยๆของคุณก็จะตื่นโดยพลัน มีวิธีอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยครับ :-

1. ให้คลิกขวาที่หน้าจอ ในพื้นที่ว่างๆ จากนั้นเลือกเมนู Properties ดังรูป


2. รอสักครู่จะมีหน้าต่างไดอะล๊อกซ์ Display Properties ปรากฏขึ้นมา จากนั้นให้คลิกที่แท๊บ Screen Saver แล้วคลิกที่ปุ่ม Power ต่อเลย ดังรูป


3. รอสักครู่จะมีหน้าต่างไดอะล๊อกซ์ Power Options Properties ปรากฏขึ้นมา เลือก Power Schemes เป็นแบบ Home/Office Desk(ซึ่งส่วนใหญ่จะ default ไว้ที่ตัวนี้) จากนั้นให้คลิกที่ลิสต์รายการของ Turn off Monitor จากนั้นเลือกช่วงเวลาที่คุณต้องการ ให้จอมอนิเตอร์ของคุณหลับอัตโนมัติ (แนะนำให้เลือกเป็น 5 นาที) แต่ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นแบบ Portable เช่น โน้ตบุ๊ค คุณสามารถทำการตั้งค่าการ Plugged in และ Running on batteries ได้เพิ่มเติมอีก ดังรูป


4. เมื่อตั้งค่าต่างๆเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการคลิกที่ปุ่ม OK > OK เพื่อบันทึกตั้งค่าและจบการทำงานออกไป ดังรูป


เห็นไหมหล่ะครับ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถช่วยชาติประหยัดพลังงาน และช่วยรักษาสภาพแวดล้อมของโลกให้น่าอยู่ขึ้นแล้วหล่ะครับ ;)

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วินโดวส์ทิป: รีเซ็ต/เปลี่ยนรหัสผ่านง่ายๆผ่านคอมมานด์ไลน์(cmd)

จากที่ผมเคยเขียนบทความ จะตั้งค่าให้ Log on เข้า Windows XP โดยอัตโนมัติได้อย่างไร ??? วันนี้ผมจะมาแนะนำทิปสำหรับเปลี่ยนหรือรีเซตรหัสผ่านด้วยวิธีการเรียกใช้คำสั่งผ่านคอมมานด์ไลน์(หรือ dos command ของวินโดวส์เอ๊กพี นั่นเองครับ) ซึ่งมีขั้นตอนหรือวิธีการทำอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยครับ :-

1. ให้ไปที่ Start > เลือก run (หรือจะกดปุ่มไอคอนรูป Windows+R ก็ได้ครับ)
2. จากนั้นจะมีไดอะล๊อกซ์รันปรากฏขึ้นมา ให้พิมพ์ว่า cmd จากนั้นรอสักครู่จะมีหน้าต่าง command prompt ขึ้นมา (อีกวิธี ที่สามารถเปิด command prompt ได้คือ ให้ไปที่ Start > Programs > Accessories > command prompt ก็ได้เช่นกัน)
3. ในหน้าต่าง command prompt ให้พิมพ์ว่า net user username password โดย

  • net user คือ คำสั่งที่จะใช้เปลี่ยน/รีเซ็ตรหัสผ่าน

  • username คือ ชื่อ username ที่ต้องการเปลี่ยนรหัสผ่าน

  • password คือ ให้พิมพ์รหัสผ่านที่ต้องการเปลี่ยนใส่เข้าไป


ยกตัวอย่างเช่น ต้องต้องการที่จะเปลี่ยน/รีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้งาน jojo ให้เป็น 69696969

ผมก็จะใช้คำสั่ง net user jojo 69696969 แล้วก็ Enter จากนั้นรอสักครู่จะมีข้อความประมาณว่า "the command completed successfully" นั่นก็แสดงว่ารหัสผ่านของผู้ใช้งาน jojo ได้ถูกเปลี่ยนเป็น 69696969 เรียบร้อยแล้ว

เพิ่มเติม: คำสั่ง net user เอาไว้สำหรับลิสต์ดูรายชื่อผู้ใช้งานทั้งหมดในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งคุณสามารถใช้คำสั่ง net user /? เพื่อขอความช่วยเหลือหรือดู help เกี่ยวกับวิธีการเรียกใช้งานได้ครับ

ลองนำไปใช้งานกันดูนะครับ ;)

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Blue Screen of Death(จอฟ้ามรณะ)กับรหัสความผิดพลาดและแนวทางแก้ไข

จากบทความ ตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ให้รีสตาร์ท เมื่อเกิด Blue Screen of Death(จอฟ้ามรณะ) ก่อนหน้านี้ ผมได้อธิบาย ขั้นตอนวีธีการตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ให้รีสตาร์ทตัวเอง เมื่อเกิด blue screen เพื่อที่เราจะได้ดูรายละเอียด error code, stop code หรือรหัสความผิดพลาดได้ ซึ่งความผิดพลาดที่อาจจะเคยเจอกันบ่อยๆ ก็ได้แก่ :-

  • Attempted Write To Readonly Memory

  • Bad Pool Caller

  • Data Bus Error

  • Driver IRQL Not Less Or Equal

  • Driver Power State Failure

  • Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations

  • Hardware Interrupt Storm

  • Inaccessible Boot Device

  • Kernel Data Inpage Error

  • Kernel Stack Inpage Error

  • Kmode Exception Not Handle

  • Mismatched Hal

  • No More System PTEs

  • NTFS File System

  • Page Fault In Nonpaged Area

  • Status Image Checksum Mismatch

  • Thread Stuck In Device Driver

  • unexpected Kernel Mode Trap

  • Unmountable Boot Volume


ซึ่งติดตามบทความเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิด blue screen และแนวทาง วิธีแก้ไขปัญหา กันต่อในบทความ สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหา Blue Screen of Death(จอฟ้ามรณะ) กันต่อไปนะครับ

ตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ให้รีสตาร์ท เมื่อเกิด Blue Screen of Death(จอฟ้ามรณะ)

หลายคนคงจะเคยเจอ Blue Screen (จอฟ้ามรณะ หรือ จอฟ้ามหาภัย) กันมาบ้างแล้วนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่วินโดวส์จะแจ้งในลักษณะที่เป็น error code หรือ รหัสความผิดพลาด นั่นแหล่ะครับ ซึ่งเพียงแค่นั้น ไม่อาจจะช่วยอะไรเราได้เลย และหลายครั้งที่เกิดบลูสกรีนขึ้น เครื่องคอมพิวเตอร์(พีซี หรือโน้ตบุ๊ค มักจะรีสตาร์ทเครื่องเองทุกครั้งไป)

วันนี้ผมเลยถือโอกาสมาบอกทิป เทคนิค การตั้งค่าไม่ให้เครื่องรีสตาร์ทตัวเอง เมื่อเกิดบลูสกรีนขึ้น ต้องทำอย่างไรบ้าง ติดตามกันต่อไปได้เลยครับ

วิธีการการตั้งค่าไม่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์รีสตาร์ทตัวเอง เมื่อเกิดบลูสกรีนขึ้น สามารถทำได้ดังขั้นตอนต่อไปนี้ :-

1. ให้ไปคลิกขวาที่ My Computer จากนั้นเลือกที่เมนู Properties

2. รอสักครู่จะมีหน้าจอ System Properties ขึ้นมา ให้ไปคลิกเลือกที่แท๊บ Advanced

3. จากนั้นให้มองหาในส่วนของ Startup and Recovery และให้คลิกที่ปุ่ม Settings ที่อยู่ในส่วนนี้

4. จากนั้นจะปรากฏไดอะล๊อกซ์ Startup and Recovery ให้มองหาในส่วนของ System failure

5. ต่อมาให้คลิกเครื่องหมายถูก ออกจากหน้าข้อความในเชคบ๊อกซ์ Automatically restart

6. จากนั้นให้กดปุ่ม OK > OK เป็นอันว่าเราได้ตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ครั้งต่อไปเมื่อเกิดบลูสกรีน เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ก็จะไม่ทำการรสตาร์ทตัวเองอีกต่อไปแล้วครับ

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วินโดวส์ทิป: เปิดโปรแกรมที่คุณใช้อยู่บ่อยๆด้วยการตั้งค่าคีย์บอร์ดช๊อตคัต

สวัสดีครับ หลังจากที่ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับการ สร้าง Shortcut Icon สำหรับ Shutdown/Reboot เครื่องแบบทันใจกันดีกว่าครับ !!! ไปแแล้วนั้น วันนี้มาแนะนำการใส่/ตั้งค่าคีย์บอร์ดช๊อตคัตให้กับเปิดโปรแกรมที่คุณใช้อยู่บ่อยๆ หรือโปรแกรมที่คุณโปรดปราน  โดยไม่ต้องคลิกแล้วเปิด หรือดับเบิ้ลคลิกให้เมื่อยมือ เมื่อยนิ้วอีกต่อไปมีวิธีการทำอย่างไร ไปดูกันเลยครับ

1. คุณต้องทำการสร้างช๊อตคัตของโปรแกรมนั้นๆขึ้นมาก่อน หรือถ้ามีช๊อตคัตไอคอนโปรแกรมที่ต้องการแล้ว ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย

วิธีการช๊อตคัตไอคอนโปรแกรม ที่ง่ายที่สุดก็คือ ให้ไปที่อยู่ของไฟล์ .exe หรือไฟล์ที่เราต้องการสร้างช๊อตคัต > จากนั้นให้ทำการคลิกขวาที่ไฟล์นั้น > เลือกเมนู Send to > เลือก Desktop (create shortcut) เท่านี้ คุณก็จะได้ช๊อตคัตไอคอนเรียบร้อยแล้วครับ

2. ให้คลิกขวาที่ช๊อตคัตไอคอนในหน้าจอ desktop ที่คุณสร้างหรือที่คุณต้องการ > จากนั้นให้คลิกเมนู Properties

3. จากนั้นให้ไปที่แท๊บ Shortcut แล้วมองหาคำว่า "Shortcut  key" เมื่อเจอแล้วให้เอาเม้าส์เคอร์เซอร์ไปกระพริบอยู่ในช่องที่อยู่หลัง "Shortcut  key"

4. ให้กดปุ่มคีย์บอร์ดใดๆ ที่คุณต้องการตั้งค่า "Shortcut  key" ให้กับโปรแกรมนั้นๆ ดังรูปข้างล่างนี้
windows-keyboard-shortcut-icons

ในตัวอย่างนี้ ผมใช้ "Ctrl+Alt+F" เพื่อตั้งค่าการเปิดหมาไฟอย่างเร็วด้วยคีย์บอร์ด

5. จากนั้นก็กดปุ่ม Apply > OK เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับการใส่/ตั้งค่าคีย์บอร์ดช๊อตคัตให้กับเปิดโปรแกรมที่คุณใช้อยู่บ่อยๆ

หมายเหตุ

คุณสามารถใช้ตัวอักษร (A-Z, 0-9 รวมทั้งใช้ Ctrl, Alt, Shift ร่วมด้วยได้ครับ) ในการตั้งค่าคีย์บอร์ดช๊อตคัตให้กับเปิดโปรแกรมที่คุณใช้อยู่บ่อยๆ

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Yahoo mail tips+tricks: ท๊อป 10 ยาฮูเมล์ทิป+ทริก+อีสเตอร์เอ้ก

สวัสดีครับ กลับมาพร้อมกับโค้งสุดท้ายของวันหาเสียงของผู้สมัคร รับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และก็คงอีกไม่นาน ที่เราจะได้ยลโฉมหน้าผู้ว่า กทม. คนใหม่แล้วครับ สำหรับใครที่มีสิทธิ์ มีเสียง มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของกรุงเทพมหานคร ก็อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งนะครับ

"อนาคตของกทม. คุณเป็นผู้ชี้ชะตา"

เอ้า! กลับมาเข้าเรื่องต่อดีกว่านะครับ หลังจากที่เมื่อวานผมได้แนะนำ
จีเมล์ทิป: จะค้นหาข้อมูลในจีเมล์แอคเค้าท์ของคุณให้ง่ายและรวดเร็วได้อย่างไร??? เอาใจสาวก ผู้ใช้จีเมล์ไปแล้ว วันนี้ขอมาแนะนำ 5 ทิป 4 ทริก กับอีก 1 อีสเตอร์เอ้ก สำหรับสาวก ผู้ใช้ยาฮูเมล์ มาฝากกันครับ มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ :-

ท๊อป 5 ยะฮูเมล์ทิป

  • ค้นหาจดหมาย: คุณสามารถทำการค้นหาจดหมายได้ง่ายๆ ด้วยการใส่คำค้น คีย์เวิร์ด ที่ต้องการค้นหา ในช่อง search mail จากนั้นกดปุ่ม Go หรือ Enter ที่คีย์บอร์ดก็ได้ครับ เท่านี้คุณก็สามารถทำการค้นหาในยะฮูเมล์แล้วหล่ะครับ

  • เลือกเมล์หลายๆฉบับ: คุณสามารถทำการเลือกเมล์ได้ทีละหลายๆฉบับได้ โดยการกด Ctrl+A (กดป่ม Ctrl พร้อมด้วยปุ่ม A) พร้อมกัน หรือกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วใช้เม้าส์คลิกเลือกเมล์ที่ต้องการได้ทีละเมล์ หรือกดปุ่ม Shift ค้างไว้ แล้วใช้เม้าส์คลิกเลือกเมล์ที่ต้องการได้ทีละหลายๆเมล์

  • ซ่อน/แสดงหน้าเปิดดูข้อความในเมล์: คุณสามารถกดปุ่มตัววี(V) ที่คีย์บอร์ด เพื่อให้แสดงหน้าเปิดดูข้อความในเมล์ แล้วเช่นเดียวกันเมื่อกดปุ่มตัววี(V) อีกครั้ง เพื่อให้ซ่อนหน้าเปิดดูข้อความในเมล์เช่นกัน

  • เขียน+ตอบจดหมายใหม่อย่างเร็ว: คุณสามารถเขียนจดหมายใหม่ได้อย่างรวดเร็ว โดยการกดปุ่มตัวเอ็น(N) ที่คีย์บอร์ดหรือกดปุ่มตัวอาร์(R) ที่คีย์บอร์ด เพื่อตอบจดหมายอย่างรวดเร็ว

  • ส่งจดหมายเร็วปายสายฟ้า: เมื่อคุณเขียนจดหมายใหม่เรียบร้อยแล้ว สามารถกดปุ่ม Ctrl+Enter ที่คีย์บอร์ดเพื่อส่งเมล์ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่ม Send


ท๊อป 4 ยะฮูเมล์ทริก

  • เลือกโฟลเดอร์ด้วยคีย์บอร์ด: ในหน้ายาฮูเมล์ คุณสามารถกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วกดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลง เพื่อเลือกเปิดโฟลเดอร์ได้

  • ค้นหาข้อความใดๆในจดหมายที่เปิด: คุณสามารถทำการค้นหาข้อความใดๆในจดหมายที่เปิดไว้ได้ โดยกดปุ่ม Ctrl+F (กดปุ่ม Ctrl พร้อมด้วยปุ่ม F) จากนั้นพิมพ์ข้อความที่คุณต้องการค้นหาในจดหมายที่เปิด แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อค้นหาข้อความในจดหมายทันที

  • ค้นหาจดหมายที่มีหัวเรื่องเหมือนกัน: คุณสามารถทำการค้นหาจดหมายที่มีหัวเรื่องเดียวกันได้โดยการกดปุ่ม Ctrl+Shift+ลูกศรขึ้นหรือลง เพื่อค้นหาจดหมายที่มีหัวเรื่องเหมือนกันได้ และสามารถทำการกดปุ่ม Ctrl+Alt+Shift+ลูกศรขึ้น เพื่อกำหนดเงื่อนไขที่ต้องการค้นหา สำหรับการค้นหาโดยใช้ Ctrl+Shift+ลูกศรขึ้นหรือลง ได้ครับ

  • เพิ่มผู้ติดต่ออย่างรวดเร็ว(Drag&Drop): คุณสามารถทำการเพิ่มชื่ออีเมล์ คนที่ส่งเมล์หาคุณลงใน Address Book อย่างง่ายและรวดเร็ว ได้โดยการคลิกเลือกจดหมายนั้นๆค้างไว้ จากนั้นเลื่อนไปวางใส่ในโฟลเดอร์ Contacts เท่านี้ก็สามารถเพิ่มผู้ติดต่อคนใหม่ได้แล้วครับ


และสุดท้าย 1 Easter Egg:

  • หัวข้อจดหมายแบบสุ่ม: เมื่อคุณจะทำการเขียนจดหมายใหม่ ให้ลองคลิกที่ปุ่ม Subjects: ในหน้าเขียนจดหมายใหม่(Compose New Mail) จากนั้นคุณก็จะเห็นหัวข้อจดหมายแสดงมาอัตโนมัติ ซึ่งจะสุ่มมาทุกครั้งเมื่อคุณคลิกปุ่ม Subjects: ยกตัวอย่าง ดังต่อไปนี้ :-

  • Shake it, don't break it, took your mama 9 months to make it.

  • open air hubhub or underwater sub snub?

  • Great mind thinks alike.

  • Please ignore my last email

  • never finish a burrito

  • Save some funk for Sunday


ลองดูไข่มหัศจรรย์ของยาฮูเมล์นะครับ

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551

จีเมล์ทิป: จะค้นหาข้อมูลในจีเมล์แอคเค้าท์ของคุณให้ง่ายและรวดเร็วได้อย่างไร???

สวัสดีวันศุกร์แห่งชาติครับ ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่เช้าเลย พอสายมาฝนเริ่มพรำๆ จนบัดเดี๋ยวนี้ยังไม่หยดตก(ที่จริงฝนก็ตกตั้งแต่เช้ามืดวันนี้แล้วหล่ะครับ) ก็ดีครับ ทำให้บรรยากาศในกรุงเทพฯ เย็นสบายดี รถอาจจะติดสักหน่อย และถ้าใครเดินทาง ขับรถขับเรือก็ขอให้ระมัดระวังกันนะครับ และวันนี้ผมมีทิป เทคนิคเกี่ยวกับการค้นหาในจีเมล์ สำหรับผู้ใช้งานจีเมล์มาแนะนำกันลองไปใช้ดูด้วยครับ

โดยปกติแล้ว ถ้าคุณจะค้นหาเมล์ที่เข้ามาในจีเมล์แอคเค้าท์ของคุณ ก็เพียงแค่ใส่คำค้นหรือคีย์เวิร์ดลงไปในช่องค้นหาเมล์ ที่อยู่ด้านบนของหน้าจีเมล์ แล้วก็เอนเทอร์(หรือคลิกที่ปุ่ม search mail) แต่วิธีนี้ ถ้าในกรณีที่มีเมล์ในกล่องเยอะๆ คุณต้องมาทำการคลิกเบรา ค้นหาดูทีละหน้าๆ ซึ่งอาจจะทำให้เสียเวลา ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการช้า(พูดง่ายๆก็คือ ไม่ทันกิน นั่นแหล่ะครับ)

ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอนำเสนอการใช้ "Operators" เพื่อช่วยในการค้นหาและกรองผลลัพธ์ที่ตรงใจ ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีโอเปอเรเตอร์ที่ผมใช้บ่อยๆ ดังต่อไปนี้ :-

  • from: ใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์จากคนที่ส่งมา เช่น from:nina (เป็นการค้นหาเมล์ที่ nina ส่งมาหาคุณ) เช่นเดียวกัน คุณสามารถใช้ to:, subject:, cc: และ bcc: ได้ด้วยเหมือนกัน

  • has:attachmentใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์ใดๆที่มีไฟล์แนบ ซึ่งสามารถใช้คู่กับ from: ได้ เช่น from:ninahas:attachment เป็นต้น

  • after:ใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์ตามช่วงวันที่ที่คุณได้รับเมล์นั้นๆ โดยมีรูปแบบวันที่เป็น YYYY/MM/DD ทั้งนี้สามารถใช้ควบคู่กับ before: ได้ เช่น after:2008/009/01 before:2008/10/01 เป็นต้น

  • in: ใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์ในตู้รับจดหมาย, ถังขยะ, สแปม, หรือที่ใดๆ เช่น in:anywhere (ค้นหาจากที่ใดก็ได้ในจีเมล์ของคุณ), in:inbox (ค้นหาเฉพาะในกล่องจดหมาย), in:trash (ค้นหาเฉพาะในถังขยะ), in:spam (ค้นหาเฉพาะในสแปม) เป็นต้น

  • is: ใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์ตามสถานะเมล์ที่คุณระบุไว้ เช่น is:starred (ค้นหาเมล์ที่ติดดาวไว้), is:read (ค้นหาเมล์ที่อ่านไปแล้ว), is:unread (ค้นหาเมล์ที่ยังไม่ได้อ่าน) เป็นต้น

  • filename: ใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์ที่มีแนบไฟล์ตามชื่อไฟล์ที่คุณระบุไป เช่น filename:linkdownloadvideo.txt เป็นต้น

  • label: ใช้สำหรับระบุการค้นหาเมล์ที่คุณติดลาเบลเอาไว้ เช่น from:thani label:friends เป็นต้น


ทั้งนี้ทั้งนั้น เงื่อนไขการใช้งานระหว่างโอเปอเรเตอร์นั้น

  • จะต้องมี space (เคาะช่องว่าง 1 ครั้ง) ดังตัวอย่าง(กรณีที่มีการใช้โอเปอเรเตอร์มากกว่า 1 ตัว) ที่แสดงข้างต้น



  • และจีเมล์จะใช้ AND (โดยอัตโนมัติ)ในการตรวจสอบเงื่อนไข(กรณีที่มีการใช้โอเปอเรเตอร์มากกว่า 1 ตัว เช่นกัน)



  • แต่ถ้าคุณต้องการที่จะใช้ OR ระหว่างโอเปอเรเตอร์ที่ใช้มากกว่า 1 ตัว ก็สามารถใช้ได้ เช่น from:nina OR from:thani (และ OR ต้องเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่เท่านั้น) เป็นต้น

  • รวมไปถึงสามารถใช้ - (ใช้เครื่องหมายขีดกลาง สำหรับตัดผลลัพธ์ตามข้อความที่อยู่หลังเครื่องหมาย) และ " " (ใช้ฟันคู่ สำหรับค้นหาเฉพาะวลีหรือข้อความที่อยู่ในเครื่องหมายนั้น) ได้อีกด้วย


เป็นยังไงกันบ้างครับ เต็มอิ่มกับทิปสำหรับการค้นหาจดหมายในจีเมล์ ตามเงื่อนไขที่คุณต้องการกันไปเรียบร้อย ลองนำไปใช้กันดูนะครับ ;)

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

อยากเป็นพรีเมี่ยมแอดเซ้นส์พับบลิชเชอร์กันไหม แล้วดียังไง???

เคยเห็น Adsense ads unit ในบางเว็บไหมครับ ว่าทำไมจึงมีรูปแบบไม่เหมือนปกติจากที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ดูดี ดูสวยงาม แปลกตาดีกว่าปกติ แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถทำได้ปรับแต่ง เปลี่ยนแปลง รูปแบบและจัดการแอดเซ้นต์ยูนิตได้ เหมือนๆกับเว็บเหล่านั้น นั่นก็เพราะว่า เว็บเหล่านั้นเป็น "AdSense Premium account" นั่นก็คือได้รับสิทธิพิเศษมากมายกว่าแอคเค้าท์ปรกติ ซึ่งไม่เหมือนกับ "Premium Wordpress themes" นะครับ เพราะไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน นั่นเอง

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโฆษณาอันไหน เว็บไหนติด "Premium AdSense ads unit"?

วิธีการ ที่จะดูว่าโฆษณาอันไหนเป็น Premium AdSense ads unit สามารถสังเกตที่การปรับแต่ง รูปแบบและขนาดของตัวอักษร รวมไปถึงวลีหรือข้อความที่อยู่ส่วนบนของ adsense unit นั่นแหล่ะครับ ดังตัวอย่างในรูปที่แสดงข้างต้น จะเห็นมีข้อความทั้ง  “Ads by Google”, “Sponsored Results”, “Sponsored Links” ซึ่งคำว่า “Sponsored Results”, “Sponsored Links” นั้น สามารถเปลี่ยนมาจาก “Ads by Google" ได้ นั่นเอง และในความเป็นจริงแล้ว อาจจะมีบางที่ บางเว็บ ที่เปลี่ยนสีพื้นของ adsense unit ด้วย

แล้วจะทำอย่างไรหล่ะ ถึงจะเป็น "AdSense Premium Publishers" ได้?

เริ่มต้นนั้น เว็บของคุณจะต้องมีคนเข้ามาเปิดดูมากกว่า 20 ล้าน pageviews ต่อเดือน หรือถูกค้นหาในเว็บอย่างน้อย 5 ล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งเว็บไหนหรือใครทำได้ เข้าไปรอคัดเลือกได้เลยที่ AdSense premium service

ซึ่งเว็บไซต์ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษ ดังต่อไปนี้ :-

  • Google sales representative and account manager

  • Additional monetization options

  • Customized revenue terms

  • More Flexible ad formats

  • Advanced and more robust filtering

  • Assistance with site optimization

  • Enhanced technical support from a sales engineer

  • Business support from a dedicated account manager

  • Monetization of search results

  • Optional labeling of ads


ปล. แปลเองนะครับ แบบว่า ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง ;)

เอาหล่ะ เว็บไหนหรือใครทำให้เว็บตัวเองมีคนเข้ามาเปิดดูมากกว่า 20 ล้าน pageviews ต่อเดือน หรือถูกค้นหาในเว็บอย่างน้อย 5 ล้านครั้งต่อเดือน เข้าไปรอคัดเลือกที่ AdSense premium service ได้เลยครับ ส่วนผมยังอีกนานครับ แหะๆ

Cheers!

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

gmail trick: มาดูกันว่าใคร เว็บไหน เอาอีเมล์ของคุณไปใช้หรือขายให้กับสแปมเมอร์

คุณจำได้ไหมว่าเคยเอา email address ของคุณไปสมัครสมาชิกหรือใช้บริการของเว็บไหนมาบ้าง?

แล้วรู้ไหมว่ามีใคร หรือเว็บไหนที่เอาอีเมล์ของคุณไปใช้หรือขายให้กับสแปมเมอร์?

สวัสดีตอนบ่ายแก่ๆครับ ผมคิดว่าหลายคนคงจะเคยใช้อีเมล์แอ๊ดเดรสของตนเองไปสมัคร ลงทะเบียนหรือใช้งานเว็บต่างๆมากกันบ้างแล้ว และไม่ต้องการให้เจ้าของเว็บนั้นๆ เอาอีเมล์ของคุณไปค้า ขายหรือเอาไปให้เหล่าสแปมเมอร์ทั้งหลาย ส่งสแปมเมล์มาหาคุณกันใช่ไหมหล่ะครับ

วันนี้ผมมีทริกมาแนะนำ สำหรับดู เช็คว่าใคร เว็บไหน เอาอีเมล์ของคุณไปใช้หรือขายให้กับสแปมเมอร์ ซึ่งทริคนี้สามารถใช้ได้เฉพาะคนที่ใช้บริการฟรีอีเมล์ของ กูเกิ้ลเมล์ เท่านั้นนะครับ มีวิธีการอย่างไรนั้น ไปดูกันเลย :-

วิธีการ ก็คือ เมื่อคุณจะใช้อีเมล์ของคุณเพื่อสมัคร ลงทะเบียน ขอใช้บริการใดๆ กับทางเว็บใดเว็บหนึ่ง

ยกตัวอย่างเช่น อีเมล์ของคุณคือ username@gmail.com แล้วคุณต้องการที่จะลงทะเบียนที่เว็บ samplesite.com และแทนที่คุณจะใช้ username@gmail.com ให้คุณเปลี่ยนไปใช้ username+samplesitecom@gmail.com และกรอกลงไปในช่องที่ให้ระบุอีเมล์แทน จากนั้นเมื่ออีเมล์ของคุณถูกนำเอาไปใช้ หรือขายให้กับสแปมเมอร์และส่งสแปมเมล์มาหาคุณ เมื่อทาง gmail เห็นเครื่องหมาย "+" (เครื่องหมายบวก) ที่อยู่ในอีเมล์แอดเดรสของคุณ มันก็จะตัดเอาตัวอักษรทั้งหมดที่อยู่ทางซ้ายของเครื่องหมาย "+" โดยจะได้เป็น username@gmail.com นั่นเอง และคุณก็ยังสามารถได้รับเมล์ที่ส่งมาเหมือนเดิม และรู้ว่าใคร เว็บไหน ส่งเมล์มาหาคุณด้วย โดยคลิกที่ Show Detail ในเมล์นั้นๆ เพื่อดูรายละเอียดได้ครับ

ทั้งนี้คุณสามารถทำการค้นหาใน gmail ได้โดยใช้คีย์เวิร์ดว่า username+samplesitecom เพื่อดูว่ามีเมล์ไหนบ้างที่ส่งเข้าที่ที่อีเมล์แอดเดรสนี้บ้าง เท่านี้ก็เรียบร้อยหล่ะครับ

สำหรับใครที่ใช้ gmail อยู่หล่ะก็ ลองนำไปใช้ดูนะครับ :D